วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Otome Youkai Zakuro



Otome Youkai Zakuro

ผู้แต่ง : Hoshino Lilly

“สาวกลัทธินิยมหูและสาวซึนเดระ ขอเชิญทางนี้”
เรื่องย่อ :
ฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคโบราณ มนุษย์กับภูตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่ก็มีการแบ่งแยกกันในสังคมเพราะลึก ๆ แล้วมนุษย์ยังมีความหวาดกลัวพวกภูตอยู่มาก ส่วนใหญ่จึงตั้งข้อรังเกียจและมักจะมองภูตด้วยสายตาเหยียดหยาม

และจากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่มีสาเหตุจากพวกภูตซึ่งเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลัง ๆ ทางกองทัพจึงได้ตัดสินใจก่อตั้ง “สมาพันธ์ภูต” มาคอยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากพวกภูต โดยองค์กรที่ว่าประกอบไปด้วยนายทหารหนุ่มรูปงาม 3 นาย(เค,ริเคน,กังริว) และสาวน้อยลูกครึ่งภูต 4 ตน (ซาคุโระ,ซูซูกิโฮตารุ,บงโบริ+โฮซูกิ)จับคู่ทำงานเป็นคู่หูกัน

“ซาคุโระ” ตัวเอกของเรื่องได้จับคู่กับนายทหาร “อาเงมาคิ เค” แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน เพราะ “เค” กลัวภูตเอามาก ๆ (แต่ปกติมักจะเก๊กมาดเท่ห์กลบเกลื่อน) เนื่องจากความฝังใจจากเหตุการณ์บางอย่างในวัยเด็ก ส่วนคู่อื่น ๆ ก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้าหากันเช่นกัน

ความคิดเห็น :
เรื่องนี้ออกแบบตัวละครได้เก๋และน่ารักมาก ๆ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชอบสาวซึนเดระ ปากไม่ตรงกับใจคงจะชอบคู่ซาคุโระ แต่โดยส่วนตัวแล้ว LadyOtakuชอบคู่ ซูซูกิโฮตารุกับริเค็นมากกว่า ส่วนคู่ฝาแฝดสาวบงโบริ โฮซูกิ กับ กังริว ก็น่ารัก แต่กังริวดูเด็กมากเลยให้ความรู้เหมือนถูกสาว ๆ เลี้ยงต้อยยังไงก็ไม่รู้(ฮา!)

เนื้อเรื่องมีทั้งขบขัน เศร้า รักโรแมนติกและบทแอคชั่น ทำให้ดูได้เพลิน ๆ แต่จุดเด่นที่สุดของเรื่องคือฉากต่อสู้ เพลงที่พวกสาว ๆ ร้องในตอนนั้นเพราะมาก ปกติไม่ค่อยชอบซาคุโระ แต่พอถึงตอนต่อสู้ทีไรก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอช่างเท่ห์ชะมัดยาด! ถ้าให้พูดตรง ๆ คือเท่ห์กว่าพระเอกซะอีก (ปกติไม่ค่อยได้เจอพระเอกที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม แต่ท่าดีทีเหลวแบบนี้ เลยรู้สึกว่าแปลกดีเหมือนกัน)


จุดด้อย :
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูอนิเมแนวแฟนตาซีคล้าย ๆ แบบนี้มามากหรือเปล่า พอดูเรื่องนี้เลยรู้สึกว่าเนื้อหามันค่อนข้างจืด ไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ลุ้นสักเท่าไหร่ อย่างปริศนาเกี่ยวกับชาติกำเนิดของซาคุโระมันก็ดูธรรมดามาก แทบจะเดาได้เลยด้วยซ้ำ เพราะเหมือนจะเคยดูเรื่องอื่นที่มีปริศนาทำนองนี้มาเยอะแล้ว แต่ก็ต้องคอยดูว่าสุดท้ายจะมีการหักมุมแบบที่คนดูคาดไม่ถึงหรือเปล่า

คะแนน 7.5/10


ซาคุโระ กับ เค
ซูซูกิโฮตารุ กับ ริเค็น

บงโบริ,โฮซูกิ กับ กังริว



วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

kimi ni to doke (ฝากใจไปถึงเธอ)


Kimi ni Todoke


ชื่อเรื่อง : ฝากใจไปถึงเธอ (Kimi ni Todoke)
ผู้แต่ง : Karuho Shiina
ฉบับการ์ตูน : สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิก

“การ์ตูนรักใส ๆ ไร้พิษภัย แต่สร้างความประทับใจให้กับคนดูอย่างไม่รู้ลืม”
เรื่องย่อ :
ตอนเด็ก ๆ คุโรนูมะ ซาวาโกะ ตัวเอกของเรื่องเคยถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียกชื่อผิดเป็น 'ซาดาโกะ' (ชื่อเดียวกับวิญญาณในภาพยนตร์เรื่อง เดอะ ริง) จนกลายเป็นฉายาที่คนอื่น ๆ เรียกกันจนติดปาก เมื่อประกอบกับผมสีดำยาว ผิวขาวซีด อุปนิสัยขี้อายของเธอ จึงทำให้เริ่มมีข่าวลือแปลก ๆ ว่าซาวาโกะมองเห็นวิญญาณ ถ้าใครทำไม่ดีกับเธอ หรือจ้องตาเธอเกิน 8 วินาทีจะต้องถูกสาป จึงไม่มีใครกล้าคบหากับเธอเลย ทั้ง ๆ ที่เธออยากเป็นเพื่อนกับคนอื่น ๆ มาก
ซาวาโกะมีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งชื่อ คาเซะฮายะ ซึ่งเป็นคนที่เธอรู้สึกนับถือและชื่นชมมาก ๆ เพราะเขาเป็นคนที่สดใสร่าเริง และเป็นศูนย์กลางของเพื่อนทุก ๆ คน และด้วยคำแนะนำของเขา ก็ได้กลายเป็นจุดเล็ก ๆที่ทำให้ซาวาโกะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาคนอื่นในที่สุด

ความประทับใจ :
"ฝากใจไปถึงเธอ" เป็นการ์ตูนรักใส ๆ ไร้พิษภัย ไม่ได้เน้นขายฉากรักหวือหวาเหมือนอย่างที่การ์ตูนผู้หญิงหลายเรื่องชอบทำกัน ความพิเศษของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ผู้แต่งสามารถนำเรื่องราวความรัก และมิตรภาพของวัยรุ่นธรรมดา ๆ มาเรียงร้อยผ่านมุมมองของเด็กผู้หญิงขี้อายคนหนึ่ง ที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะอยากเป็นเพื่อนกับคนอื่น ๆ จนกลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่เรียกทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้ำตา และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างไม่รู้ลืม

นางเอก ซาวาโกะ เป็นเด็กผู้หญิงซื่อ ๆ ขี้อาย ไม่ค่อยพูด แต่มีความเข้มแข็งอยู่ในตัว และมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แม้ในบางครั้งจะล้มเหลว แต่เธอก็จะพยายามใหม่ ไม่เคยท้อแท้ และที่เธอหลงรักพระเอก ไม่ใช่การหลงรักอย่างฉาบฉวยเพราะเห็นเขาเท่ห์หรือรูปหล่อ แต่เพราะเขาช่วยผลักดันให้เธอก้าวไปข้างหน้า เธอจึงเริ่มเกิดความรู้สึกดี ๆ กับเขา จนมารู้ตัวว่าเป็นความรักในภายหลัง

ส่วนพระเอกก็ไม่ใช่ยอดชายรูปงามมาจากไหน แต่เป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่สดใส ร่าเริง อารมณ์ดี บางครั้งก็มีอะไรเปิ่น ๆ และแสดงออกอย่างซื่อ ๆ ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้รู้สึกว่าน่ารัก และเกิดความประทับใจในตัวเขามากกว่าพวกพระเอกเชิด ๆ หยิ่ง ๆ เย็นชาอย่างที่เคยเจอในเรื่องอื่น

และที่ขาดไม่ได้คือตัวอิจฉา ซึ่งดูแล้วถึงกับอุทาน 'โอ้โห ! ร้ายลึกอย่างกับนางอิจฉาละครเกาหลี !' แต่ในความร้ายก็มีเหตุผล มีที่มาว่าทำไมถึงได้ทำแบบนั้น จนสุดท้ายถึงจะไม่ชอบแต่ก็รู้สึกเข้าใจ และให้อภัยในการกระทำของเธอ

สรุปแล้วตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้มีมิติ ทำให้รู้สึกว่าพวกเขามีตัวตนอยู่จริง จนดึงให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วม คอยลุ้นตามไปด้วยตลอดทั้งเรื่อง และเชื่อว่าหลายคนหลังจากได้ดูอินเมเรื่องนี้แล้วจะต้องแอบกระซิบอยู่ในใจว่า "ซาวาโกะจัง มาเป็นเพื่อนกันเถอะ" อย่างแน่นอน

จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องนี้ฉายช่วงเดือนไหนของปี2009 แต่เป็นอนิเมที่ประทับใจที่สุดในช่วงนั้นเลยล่ะค่ะ

จุดด้อย :
ตอนท้าย ๆ ของซีซั่นหลังจากจบเหตุการณ์วุ่น ๆ รู้สึกว่าเนื้อหาจะเนือย ๆ ดูน่าเบื่อไปสักหน่อย คนดูลุ้นจนตัวโก่งว่าเมื่อไหร่คู่นี้จะตกลงเป็นแฟนกันสักทีน้า... แต่สุดท้ายก็จบไปก่อน ยังไม่ทันได้สารภาพอะไรเลย แต่ไม่ต้องห่วง ซีซั่นที่ 2 กำลังจะฉายเร็ว ๆ นี้ค่ะ^^

คะแนน 9.5/10







วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รายชื่อ Winter Anime 2010-2011 มีอะไรน่าดูบ้างเอ่ย?

รูปภาพจาก--http://akibatan.com


สำหรับลิสต์อนิเมงวดนี้ ที่รอดูอยู่ก็มีเรื่อง

-Kimi ni Todoke 2nd Season
เรื่องนี้ประทับใจมาก ๆ จากซีซั่นแรก ดูไปร้องไห้ไป รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก กับมิตรภาพอันน่าซาบซึ้งใจของซาวาโกะและเพื่อน ๆ(เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยรีวิวต่างหากอีกที^^)

-Gosick
ที่อยากดูเพราะมองแวบแรกแล้วรู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอนของ Black ชีจังจากเรื่อง Chobits -///-

-Starry Sky
รู้สึกจะสร้างมาจากเกม Otome (เกมจีบหนุ่ม)ชื่อดัง สะดุดตาตรงเป็นผลงานของ Studio Deen ซึ่งค่อนข้างประทับใจผลงานเรื่อง Junjou Romantica ทั้ง 2 ภาค
กำลังรอดูว่าเรื่องใหม่จะโอเคเหมือนเดิมหรือเปล่า

สรุปว่าโดนไปแค่ 3 เรื่องล่ะค่ะ ส่วนเรื่องอื่น ๆ กับ OVA ค่อยว่ากันทีหลัง
จะรอดูชาวบ้านเขามารีวิวก่อนว่าน่าดูไหม แล้วค่อยโหลดมาดูเอง รีวิวเองอีกที แหะๆ